ก่อนจะเขียนเกี่ยวกับสิ่งที่ผมคิด ต้องบอกไว้ล่วงหน้าเลยว่า ผมไม่ใช่นักวิจารณ์หนังมืออาชีพ แต่สังเกตุการโปรโมทภาพยนตร์ของค่ายหนัง Feel Good อย่าง “GTH” มาค่อนข้างนานจนรู้สึกอยากเขียนอะไรที่คิดออกมาบ้างสักเล็กน้อย
เริ่มแรกทีเดียว “ภาพยนตร์ พี่มาก พระโขนง” สำหรับตัวผมแล้ว ไม่ได้มีความน่าสนใจไปกว่า “หนังผี” เลยและตอนแรกก็ตั้งธงไว้อยู่แล้วว่าจะไม่ไปดูหนังเรื่องนี้แน่ๆ โดยที่ตั้งธงแบบนี้ไม่ใช่แอนตี้หนังไทยหรืออย่างไรนะครับ เพียงแต่ว่าปกติเป็นคนไม่ค่อยได้ดูหนังอยู่แล้ว เลยไม่ได้สนใจหนังเรื่องนี้เลย
แต่ตลอดระยะเวลาร่วมเดือนถึงสองเดือนที่ผ่านมา ต้องบอกได้เลยว่า ตามติดการประชาสัมพันธ์หนังเรื่องนี้มาตลอด นอกจาก teaser ที่หาได้ทั่วไปตาม youtube หรือ facebook แล้วผมต้องบอกได้เลยว่าการเห็นคลิป “สกู๊ป แม่นาคแขนยาวเท่าไหร่” ที่ทาง GTH และ Play Channel ตั้งใจทำออกมาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการประชาสัมพันธ์หนัง
ผมบอกได้เลยว่า “เฮ้ย มึงคิดได้ไงว่ะ” กับการทำสกู๊ปที่ไปถามแพทย์ว่า แขนคนจะยาวสุดได้เท่าไหร่ ซึ่งบอกตรงๆ มันไม่ make sense เลยกับคำถาม .. แต่ก็ทำให้เห็นในอีกมุมหนึ่งว่า นี้แหละเรื่องไร้สาระที่ไม่น่านำมาทำ แต่ก็ดันทำให้คนอื่นๆสนใจได้ และนั้นก็คือหนึ่งในคลิปที่ถูกทำมาช่วงที่หนัง “พี่มาก พระโขนง” กำลังจะเข้าโรง
พี่มากฯ แม่นาคแขนยาวเท่าไหร่
ไม่เพียงเท่านี้ หากสังเกตุไปอีกเยอะๆ จะเห็นได้ว่า ทางค่ายหนังค่ายนี้ เน้นการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องสุดขีด ทั้งนี้ส่วนหนึ่งต้องบอกว่า โชคดีที่หุ้นส่วนสำคัญคือ GMM Grammy ที่มี “สื่อ” อยู่ในมือมากมายตั้งแต่รายการโทรทัศน์, วิทยุ ทั้งฟรีทีวีและช่องเคเบิ้ล
เรียกได้ว่า “สื่อมากมาย” โหมกระแสภาพยนตร์เรื่องนี้ ตามสูตรสำเร็จที่ GTH ทำสำเร็จมามากมาย จนกลายเป็นยอดรายได้ถล่มทลายตั้งแต่วันแรกที่เข้าโรงกันเลยทีเดียว
หลังจากยอดรายได้ที่เข้ามาทลุ 80 ล้านตั้งแต่ 4 วันแรกที่หนังเข้าโรง ถ้าใครสังเกตุจะเห็นว่า “คลิปรายการ” ในส่วนต่างๆของหนังเรื่องนี้ก็เพิ่มเข้ามาโหมกระแสอย่างต่อเนื่อง (ผมไม่แน่ใจนะว่า ออกมาก่อนหนังเข้าหรือไม่ แต่ทางผมได้ดูหลังจากหนังเข้าแล้วหลายตอน เช่น พี่มาก..พระโขนง แฟชั่นฟันดำ หรือ พี่มาก..พระโขนง ท่าเต้นกองพัน(Practice Version))
ที่ทางผมยิ่งได้เห็น ยิ่งรู้สึกว่า “เฮ้ย! กูยอมเสียเงินเกือบ 200 บาท ไปดูพี่มากก็ได้ว่ะ”
ด้วยความที่โหมโปรโมทไม่หยุด โดยเฉพาะ แฟนช่อง Play Channel อย่างผม ต้องบอกได้เลยว่า โดนเบียดเบียนพื้นที่โฆษณาเพื่อโฆษณาหนังเรื่องนี้แทบจะทุกช่วงโฆษณากันเลยทีเดียว
จนท้ายที่สุด .. GTH ก็ได้เงินผมไปกับการไปอุดหนุนหนังไทยเรื่องนี้ …
สุดท้ายแล้ว ข้อมูลที่ทราบมาของหนังเรื่องนี้คือ งบสร้างหนังพี่มาก อยู่ที่ 35 ล้านบาท และ งบประชาสัมพันธ์วางไว้ 25 ล้านบาท แต่ใช้ไปเพียง 20 ล้านบาทเท่านั้น!!
บทความที่ผมเขียนถึงบรรทัดนี้ ต้องบอกเลยว่า แทบจะไม่ใช่บทวิเคราะห์อะไรสักอย่างเลย 5555+ แต่แค่อยากให้ “ค่ายอื่นๆ” ลองมาดูสูตรการโปรโมทหนังของค่ายนี้ดูบ้างนะครับ ว่าเขาทำอย่างไรกัน
เผื่อจะมีค่ายหนัง feel good ค่ายอื่นๆมาทาบทามความสำเร็จชนะใจคอหนังไทยกันได้บ้าง
เพราะแว่วๆมา ตอนนี้ทางค่าย GTH ลุ้นทำลายสถิติสูงสุดตลอดกาลของภาพยนต์สุริโยทัยแล้วว่าจะทลุไปได้ไหม หลังจากผ่าน 400 ล้านมาแล้ว
MV อยากหยุดเวลา (cover version)OST.พี่มาก..พระโขนง
พี่มาก..พระโขนง เบื้องหลังฉากงานวัด
พี่มาก..พระโขนง แฟชั่นฟันดำ
“พี่มาก.พระโขนง” ฮาเกรียนๆ แบบเต็มๆ
พี่มาก..พระโขนง ท่าเต้นกองพัน(Practice Version)
และถ้าแบรนด์สินค้าและบริการใด อยากให้เราได้ใช้บริการอะไร หรือได้ลองสินค้าตัวไหน ก็ส่งมาได้นะ ^^ มันอาจจะเป็นบล็อคที่เงียบเหงา ผู้ติดตามไม่น้อย แต่ผู้เขียนรู้เทคนิคการเขียนบทความให้ติดอันดับ SEO ได้นะครับ ฉะนั้นอาจเป็นจุดแข็งที่คุณอาจสนใจเราก็เป็นได้