หลายคนถามว่า ตัดแว่นที่ไหนดี … วันนี้ขอเอาประสบการณ์ตัวเองมาให้ได้ชมกันบ้างดีกว่ากับ ประสบการณ์ครั้งใหม่ที่ได้วัดสายตากับหมอตา!! ซึ่งเขาคือ นักทัศนมาตร ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยตรงอย่าง The Zett Optic ที่ย่านพรานนกนั่นเอง
นักทัศนมาตร ต่างจากช่างตัดแว่นกันยังบ้าง
หากใครใส่แว่นอยู่แล้ว คงต้องไปลองสักครั้งกับความแตกต่างของร้านตัดแว่นสีฟ้า สีเหลือง หรือสีต่างๆที่มีตามห้าง เพราะการตัดแว่นมีมากกว่าการอ่านเลขบนกำแพง หรือเอาหน้าทิ่มจอแล้วจบ แต่ นักทัศนมาตรมีความละเอียดของการวัดค่าสายตาของคุณที่มากกว่าอีกหลายส่วน ทำให้เกิดความแตกต่างของการใช้งานแว่นตาอย่างแท้จริง
ทำไมถึงเลือกนักทัศนมาตร The Zett Optic
คงไม่ปฏิเสธหากบอกว่า “รู้จัก” คลินิกนี้เป็นการส่วนตัว เพราะเราเองเป็นพี่เขยของหมอก้อง เศรษฐพล จตุรงคโชค นักทัศนมาตรคนนี้นี่เอง และเคยพาทีมงานไปทำ #รีวิวพลีชีพ ช่อง Wonderful ที่คลินิกแห่งนี้ ทำให้ได้รู้ลึกกว่าบุคคลทั่วไปว่า การตัดแว่นของผู้ที่จบสาขานี้โดยตรงมีความแตกต่างจากการตัดแว่นทั่วไปอย่างไร
ขั้นตอนการตรวจค่าสายตา
- การวัดค่าสายตา จากการอ่านเลขบนกำแพงด้วยตาเดียว
- การวัดค่าสายตา จากการอ่านเลขบนกำแพงด้วยเครื่องวัดสายตา
- การทดลองค่าสายตาตัวเอง จากแว่น Mock Up
- การเลือกกรอบแว่น และดูองศาของเลนส์ เพื่อให้ใช้งานได้สมบูรณ์
วัดสายตา
จริงๆแล้ว ดูเหมือนจะอวยเกินไปหากบอกว่า การอ่านค่าสายตาด้วยตาเดียว และ เครื่องวัดสายตา จะแตกต่างจากคนอื่นหรือร้านแบรนด์ดังๆ เพราะส่วนนี้ก็มีความต่างกันเพียงเล็กน้อยสำหรับขั้นตอน แต่ความละเอียดในส่วนนี้พบว่า จะได้เห็นความแตกต่างของการทดสอบค่าผิดปกติของสายตาตัวเองที่ละเอียดกว่ากันมาก (แค่ส่วนนี้ก็ใช้เวลาหลายสิบนาทีแล้ว)
แว่นตาเสมือนจริง
และที่น่าสนใจยิ่งคือ “ทดลองค่าสายตา จากแว่น Mock Up” ขั้นตอนนี้จริงๆแล้วเรียกว่าอย่างไรก็ไม่ทราบจริงๆ แต่มันคือ แว่นที่ให้เราสวยใส่ และมีเลนส์ที่ตรงกับค่าสายตาเรา ทำให้เราลองใส่ สวมเดิน และให้ใช้งานเสมือนใส่แว่นทั่วไป เพื่อให้ได้รู้ว่า หากแว่นนี้ เลนส์นี้เมื่อได้รับไปแล้วจะไม่รู้สึกเบลอ มึนหัว หรือมองไม่ชัดนั่นเอง
ขั้นตอนนี้แหละที่ทำให้รู้สึกว่า เอ้ยยย เจ๋ง เพราะค่าสายตาที่วัดได้ กับการลองใส่มันรู้สึกมึนเล็กน้อย ทำให้ลดค่าเอียง (ผมวัดได้มีความเอียง) ลงเล็กน้อย พอเปลี่ยนค่าเอียงลง ทำให้มองได้ชัดเจน เห็นทั้งใกล้และไกลได้แบบปกติอย่างแท้จริง
เลือกกรอบแว่น
ส่วนสุดท้าย คือ การเลือกกรอบแว่น นั่นเอง การเลือกกรอบแว่น น่าสนใจหลายอย่างจากคำแนะนำคือ แว่นตาไม่ควรเล็กเกินไป, ไม่หนีบหัวเรา, ใส่แล้วรู้สึกสบาย (นอกจากนี้คือ การเข้ากับใบหน้าของเราด้วย ส่วนนี้ทั้งความชอบส่วนตัว และหมอก้องก็อาจจะมีคำแนะนำเล็กน้อย)
ที่ The Zett Optic มีให้เลือกเป็นกรอบแว่นของแบรนด์เนมซะส่วนใหญ่ เช่น Oaklet, ic berlin, lightec, emporior amani, new balance และ Ray ban (อาจจะมีอื่นๆอีกแต่ไม่ได้สังเกตุ)
แต่ส่วนที่เกี่ยวข้องการ นักทัศนมาตร คือ องศาของการฝนเลนส์ จะเกิดขึ้นหลังจากที่เราเลือกกรอบแว่นได้นั่นเอง ร้านแว่นทั่วไปไม่ได้มีการใส่ใจเรื่องนี้ฉะนั้น แม้ว่าคุณจะเลือกกรอบแว่นแบรนด์ดัง เลนส์ที่แพง แต่หากไม่ได้ดูองศาของเลนส์ที่เข้ากับกรอบแว่น สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดี
ฉะนั้น ส่วนนี้คือส่วนที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การวัดองศาเพื่อให้เลนส์กับกรอบแว่น เข้ากัน และรับใบหน้าของเรานั่นเอง
ทั้งหมดนี้ก็คือภาพรวมของการตัดแว่นที่อาศัยนักทักศนมาตรมาช่วยดูแลให้กับเรานั่นเอง ใครที่มองหาแว่นตาใหม่เพื่อแก้ปัญหาการมองไม่เห็น มองไม่ชัด ก็ลองตัดสินใจกันดู
ชนิดเลนส์
เกือบลืมไปกับ “ชนิดเลนส์” ที่ต้องเลือก มีหลายชนิดเลนส์ที่แนะนำซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่มีอะไรพิเศษมากนัก แต่ที่อยู่ในตัวเลือกที่เหมาะกับเราเองคือ เลนส์ตัดแสง ที่เหมาะกับการทำงานหน้าจอคอมทั้งวัน กับ เลนส์แบบทั่วไปที่เหมาะอย่างยิ่งกับการใช้ชีวิตประจำวัน
สุดท้ายเลือกเลนส์แบบตัดแสง ที่เหมาะกับอาชีพของเราเอง
ภาพรวมการตัดแว่นกับนักทัศนมาตร
ขอย้ำชัดเลยว่า มีความแตกต่างจากการวัดสายตากับร้านแว่นทั่วไปอย่างมาก เพราะนักทัศนมาตรจะตรวจสายตาคุณอย่างละเอียด และใช้เวลาค่อนข้างนาน (ตั้งแต่เข้าคลินิกจนถึงออกจากร้าน อาจใช้เวลาร่วมชั่วโมงเลยทีเดียว)
สำหรับรีวิวตัดแว่นโดยนักทัศนามาตรนี้ ก็จ่ายจริงนะ เพียงแต่ว่าได้ราคาพิเศษจากน้องเขยนั่นเอง ^^ (จะให้ฟรีได้อย่างไร เพราะเลนส์ก็มีต้นทุน กรอบแว่นก็แบรนด์เนม แต่ได้ราคาพิเศษครับผม)
และถ้าแบรนด์สินค้าและบริการใด อยากให้เราได้ใช้บริการอะไร หรือได้ลองสินค้าตัวไหน ก็ส่งมาได้นะ ^^ มันอาจจะเป็นบล็อคที่เงียบเหงา ผู้ติดตามไม่น้อย แต่ผู้เขียนรู้เทคนิคการเขียนบทความให้ติดอันดับ SEO ได้นะครับ ฉะนั้นอาจเป็นจุดแข็งที่คุณอาจสนใจเราก็เป็นได้