ประสบการณ์ไปทัวร์ครั้งแรกของผม “ทัวร์เกาหลีใต้” กับการเดินทางที่แสนพิเศษ (ฮ่าๆ) จนต้องมาเล่าในบล็อกตัวเองเพื่อเก็บไว้เตือนความทรงจำ
ทัวร์เกาหลี โดนหลอกไหม
การไปเที่ยวทัวร์ครั้งนี้ถือเป็นทัวร์ต่างประเทศครั้งแรกของผมเลยก็ว่าได้ เพราะว่าชีวิตที่ผ่านมาไม่รู้เป็นอะไรไปเที่ยวแบบมีคนนำเที่ยวตลอดนั่นคือครอบครัวตัวเองนั่นเอง ทั้งประเทศอันไกลโพ้นอย่างอเมริกา,แคนาดา ใกล้ๆอย่างสิงคโปร์ จีน ฮ่องกง รวมถึงมาเก๊า ทั้งหมดนี้ไปกันเอง สนุกกันเองหมด
และ “เกาหลีใต้” จึงเป็นครั้งแรกที่ไปเที่ยวแบบทัวร์
สำหรับทัวร์เกาหลี โดยเฉพาะทัวร์ไฟไหม้ที่ปัจจุบันฮิตฮอตมากในโลกอินเตอร์เนทที่นิยมขายถูกเหมือนให้ฟรี! จึงมีหลายคนเป็นกังวลว่าจะโดนต้มหรือได้ไปไหม
สำหรับทัวร์เกาหลีของผม โชคดีว่าของจริง ไม่โดนหลอก นั่นเอง ^^
วิธีเลือกทัวร์ของผมก็ไม่มีอะไรมาก เพียงแค่ตาม @Line ของผู้ให้บริการเจ้าหนึ่ง ซึ่งติดตามมาหลายเดือน เห็นมีส่งข่าวอย่างต่อเนื่องจึงตัดสินใจเลือกเจ้านั้นนั่นเอง (ขอไม่โฆษณาชื่อผู้ให้บริการนะ เพราะจะมีแอบบ่นในหัวข้อถัดๆไป)
การประสานงานการขายทัวร์เกาหลี
ยุคนี้คงเป็นยุคแห่งการสื่อสารอย่างแท้จริง เมื่อทุกอย่างของการสั่งซื้อ “ไม่ต้องคุย” กันเลย เพราะขั้นตอนการจองตั๋วจนถึงวันที่ไปสนามบิน ได้คุยโทรศัพท์กับผู้ขายเพียงไม่กี่ประโยคเท่านั้น นั่นก็คือ การโทรแจ้งว่าส่งรายละเอียดให้ในเมล์แล้ว เท่านั้นเอง
ขั้นตอนการสั่งจองตั๋วของผมจนถึงวันบิน
- เริ่มจาก การส่ง Line ไปแจ้งว่า “จอง 2 ที่นั่ง” และได้รับการตอบกลับยอดรวม,เลขที่บัญชีที่ใช้โอนเงิน
- (ส่งทาง Line) ส่งหน้า Passport ให้กับผู้ขาย ที่เหลือก็รอใบเสร็จรับเงินทางเมล์
- (ทางโทรศัพท์) แจ้งว่าส่งวันนัดหมาย พร้อมแจ้ง Flight บิน
- (เปิดอีเมล์) ดูรายละเอียด Flight บิน
- ถึงวันบิน!!!
โอ้วแม่เจ้า คุยกันไม่กี่ประโยค นี้คือยุคของการสื่อสารไร้การพูดคุยนั่นเอง ง่ายมากจริงๆ
ประสบการณ์การบิน
ด้วยความที่ไม่เคยไปทัวร์ต่างประเทศที่คนนิยมไปกัน งานนี้เลยไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ กับทัวร์เกาหลี ที่นิยมใช้เครื่องบินแบบ Low Cost จึงไม่เหมาะกับคนหุ่นไซต์ XL แบบผม
การเดินทางด้วยระยะเวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง จึงไม่ค่อยเหมาะสักเท่าไหร่ เล่นเอาปวดหลัง ปวดเอว อย่างหนัก กับเครื่องบินสายการบิน Eastar Jet เครื่องบินต้นทุนต่ำจากประเทศเกาหลีใต้นั่นเอง
โดยทัวร์เกาหลี จะเป็นทัวร์เหมาลำที่ขนคนไทยไปทั้งเครื่องนั่นเอง เรียกได้ว่า ธุรกิจท่องเที่ยวคนไทยไปเกาหลีนี้ยังบูมต่อเนื่องจริงๆ
ฉะนั้นในเรื่องของขนาดเครื่องบินกับระยะทางที่ไป ขอให้พิจารณากันดีๆเพราะเดินทางไกลอาจทำให้เหนื่อยล้าได้
ตม.ที่นี้โหดจริงหรือ
อย่างที่ล่ำลือกันว่า ตม ของเกาหลีโหด! ด้วยเหตุผลว่ามีคนหนีจากทัวร์เพื่อเป็นแรงงานเถื่อนอยู่เยอะ ทำให้เราเตรียมตัวมาดี (ทั้งๆที่ไม่น่ากังวลอะไรทั้งหน้า Passport และอื่นๆ คิดว่าไม่น่ามีปัญหาหรอก)
งานนี้จากการสังเกตุของผมเอง ก็พบว่า มีอยู่หลายคนทีเดียวที่ได้เข้าไปห้องพิเศษ เพื่อสัมภาษณ์ แบบที่หลายเคสใน Pantip ได้พูดกัน
แต่โชคดีกว่านั้นคือ Flight เหมาลำของผมรอบนั้น ไม่มีใครติด ตม เลย
การเที่ยวเกาหลี เป็นอย่างไร
เราไปถึงเกาหลีในวันที่อากาศหนาวใช้ได้เลย ด้วยอุณหภูมิประมาณ 15 องศา พร้อมลมและฝน ทำให้วันแรกผมได้พบประสบการณ์ที่คาดหวัง นั่นคืออากาศที่เย็นกว่าบ้านเรา ซึ่งถูกใจพอสมควร
แต่ทริปทัวร์เกาหลีก็อย่างที่หลายความเห็น หลายรีวิวใน Pantip ได้พูดถึง คือ ทัวร์เกาหลี ไม่มีอะไรมาก แค่เปลี่ยนที่นอน,ที่กิน และได้ชมร้านที่ทัวร์ชอบพูดว่ามันคือร้านของรัฐบาลนั่นเอง
ผมขอรวมสถานที่เท่าที่นึกออกว่าได้ไปให้ได้ฟังนะ
- หมู่บ้านฝรั่งเศส (Petite France)쁘띠프랑스 : เป็นสถานที่แรกที่เราได้ไปกัน โดยจุดนี้ที่ได้ไป ผมชอบนะ! กับอากาศที่ค่อนข้างเย็น และวิวภูเขา แม่น้ำ ทำให้การเดินทางครั้งนี้ดีงามใช้ได้ ประทับใจที่สุดก็สตอร์เบอร์รี่ที่หน้าหมู่บ้าน อร่อยที่สุดในทริปนี้เลย (แถมราคาสมเหตุสมผลสุดแล้ว) ซื้อกินเถอะ อร่อยแน่นอน
- เกาะนามิ กับเบยองจุน & ชอยจีวู ที่หลายคนไปตามรอยซีรีส์ แต่งานนี้ผมและภรรยาพลาดที่สุด เพราะมัวแต่กินของระหว่างทาง พลาดและไม่เจอสิ่งๆนี้ (ฮ่าาาาาา)
- ร้านอาหาร เมนู “คาลบี้” ผมว่าอาหารชนิดนี้ถือว่าเด็ดที่สุดตลอดทริปของเราแล้ว ซึ่งก็ประมาณว่า หมูย่างบนเตา และตัดเป็นชิ้นๆ กินกันผัก ถือว่าถูกปากที่สุดแล้ว (โดยเฉพาะทัวร์ไทย ที่จะน้ำจิ้มตราพันธ์ท้ายฯ มาให้กินคู่กัน ซึ่งแน่นอนว่ารสชาติยิ่งคุ้นปากคนไทยเลย)
- สวนสนุก Everland : สถานที่นี้ผมว่ามันน้อยเกินไปสำหรับเวลาของทัวร์ไทย จึงไม่ค่อยจะมีอะไรพิเศษ นอกเสียจาก ไอศครีม ของสวนสนุกแห่งนี้ผมว่ามันคุ้มค่ากับราคาที่ได้เสียเงินลองเลยทีเดียว
- N-Seoul Tower สถานที่ยอดฮิต ที่ส่วนตัวแล้วคิดว่า “ไม่มีอะไรเลย” ต่อคิวขึ้นก็นาน ต่อคิวลงยิ่งนาน!
- ต้นซากุระ ใกล้โรงแรม : ช่วงเวลาที่ไปซากุระ (จำไม่ได้แล้วว่าภาษาเกาหลีเรียกว่าอะไร) บานพอดี จึงทำให้ใกล้ๆโรงแรมมีอะไรให้เดินเล่นตอนกลางคืน ได้บรรยากาศ night life ของชาวเกาหลีอยู่บ้าง สนุกดี
- พระราชวังเคียงบ็อค ดูไม่มีอะไรมาก แต่ก็ถือว่าได้ร่วมเห็นประวัติศาสตร์ประเทศนี้
- เมียงดง ที่นี้คล้ายๆสยามแต่น่าจะใหญ่กว่า มีอะไรให้ซื้อเยอะเลย เหมาะกับสาวๆ
- ละลายเงินวอน สถานที่สุดท้ายที่ทัวร์จะต้องไป นั่นคือซื้อของฝากนั้นเอง และแน่นอนว่าสถานที่นี้แพงกว่าข้างนอกเยอะ 555
ทั้งหมดนี้จริงๆแล้วเขียนบ่นเหมือนจะไม่ดี แต่พูดแง่ดีสถานที่ต่างๆที่ได้ไปก็ถือว่าเป็นการเปิดหูเปิดตาการมาต่างสถานที่ที่เราไม่เคยได้ไป จะมีข้อเสียอย่างเดียวคือเวลาที่ได้เก็บบรรยากาศมันสั้นเกินไปนั้นเอง
บังคับเที่ยว ไม่บังคับซื้อ
ผมต้องเจอสถานที่บังคับเที่ยวแบบขอไปที่ 3 ที่ตามนโยบายที่เขาว่ากันว่ามันคือ ร้านของรัฐบาลเกาหลี แต่ทำไมผมรู้สึกว่ามันออกแนวทัวร์ศูนย์เหรียญของบ้านเรา นั่นคือ ร้านบังคับเข้า เผื่อได้เงินจากของราคาแพงนั่นเอง
- ร้านโสม
- ร้านเครื่องสำอาง
- ร้านสมุนไพร
สามร้านนี้คงไม่ต้องรีวิวกันมาก เพราะแทบจะจำไม่ได้ว่าขายอะไร จำได้แค่ว่าได้ฟังแล้วต้องรักษาสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะ ตับ ของผมที่มันสำคัญต่อร่างกายเราจริงๆ
โรงแรมของทัวร์ดีไหม
กับราคาทัวร์เกาหลี ที่อยู่แค่ประมาณเกือบหมื่น แพงไปจนถึงเกือบสองหมื่น(ช่วง High Season)แล้ว ไม่ต้องบอกเลยว่า โรงแรมถือเป็นระดับ 3 ดาว ไม่ได้พิเศษอะไรมาก พออยู่ได้เท่านั้นพอ
ที่ชื่นชอบจะมีแค่ “ขนาด” ที่กว้างใหญ่ ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องการใช้พื้นที่ แต่กับความสะอาดยังถือว่าธรรมดา ไม่ได้น่าประทับใจจนต้องชื่นชม
พีคที่สุดคือ สถานที่กินอาหารเช้า และเมนูอาหารเช้า .. กินเพื่ออยู่จริงๆ สไตล์รีสอร์ทเล็กๆเมืองไทย
ช่างภาพประจำรถทัวร์
งานนี้เตรียมตัวกันให้ดี ด้วยความที่พี่สาวผมเป็นหัวหน้าทัวร์เกาหลีมาก่อน จึงให้เราระวังตัวให้ดี เพราะในรถทัวร์แต่ละคัน นอกจากมี
- หัวหน้าทัวร์ ที่เป็นคนไทยแล้ว
- ไกต์ท้องถิ่นเป็นคนเกาหลีที่นั่งอยู่เฉยๆเพื่อให้ถูกต้องตามกฏหมายบ้านเขา
- คนที่สุดพีคที่สุดคือ “ช่างภาพฟรีแลนซ์” คนๆนี้จะช่วยดูแลเหมือนเลขาหัวหน้าทัวร์คนไทย ยังเป็นช่างภาพ ที่จะนำภาพมาขายให้เราในวันสุดท้ายนั่นเอง
พี่สาวของผมได้เตือนไว้ว่าระวัง! ไม่ต้องซื้อภาพจากช่างภาพ เพราะเขาขายแพง แต่เพราะนั่นคือรายได้ของเขา จึงอย่าได้ลังเลหรือใจอ่อนที่จะเสียเงินซื้อจากช่างภาพ
แต่โชคดีของรถของผม เพราะช่างภาพแทบจะไม่ได้เก็บภายด้วยสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย บวกกับเหตุผลของหัวหน้าทัวร์ที่บอกว่า ช่างภาพลืมใส่ memory ทำให้เขาไม่ได้ขายภาพให้พวกเรานั่นเอง 555
สรุปทัวร์เกาหลี
อย่างที่บอกทัวร์เกาหลีเป็นครั้งแรกที่ไปเที่ยวต่างประเทศกับทัวร์ จึงถือเป็นประสบการณ์ครั้งแรก แต่ก็บอกเลยว่าไม่ประทับใจเท่าไหร่ในงานนี้ ทั้งเรื่องราคาที่ไปช่วง High Season พอดี จึงคิดว่าควรจะมีอะไรที่ประทับใจกว่านี้
หากจะให้ดาวเต็ม 5 ดาว งานนี้คงให้มากที่สุดคือ 3 ดาวก็ถือว่าเหมาะสมแล้ว
ด้วยสถานที่ส่วนใหญ่ จะเป็นทัวร์แวะมากกว่า ไม่ได้ไปสัมผัสบรรยากาศที่มากพอ รวมถึงการเดินทางแต่ละสถานที่ที่ห่างกันมากพอที่จะทำให้เราหลับบนรถทัวร์ได้ตลอดเวลา
จึงทำให้เวลา 5 วัน 3 คืน ของผมแทบจะอยู่บนเครื่องบินและรถทัวร์ตลอดทริป
สรุปท้ายที่สุด กับทัวร์เกาหลีใต้ เหมาะอย่างมากหากมีเวลาไปเที่ยวเล่น เดินเล่นแบบคนมีเวลาว่าง
ไปสัมผัสในแพคเกจทัวร์ที่เป็นราคาต่ำกว่าหมื่นจะดีกว่า ไม่เหมาะสักเท่าไหร่หากต้องไปช่วง High Season เพราะความคุ้มค่านี้ผมให้ติดลบก็เท่านั้นเอง
สวัสดี ซารางเฮโย
และถ้าแบรนด์สินค้าและบริการใด อยากให้เราได้ใช้บริการอะไร หรือได้ลองสินค้าตัวไหน ก็ส่งมาได้นะ ^^ มันอาจจะเป็นบล็อคที่เงียบเหงา ผู้ติดตามไม่น้อย แต่ผู้เขียนรู้เทคนิคการเขียนบทความให้ติดอันดับ SEO ได้นะครับ ฉะนั้นอาจเป็นจุดแข็งที่คุณอาจสนใจเราก็เป็นได้