1 สัปดาห์ที่ผ่านมาเจอปัญหาของตัวเองเกิดขึ้นแล้วกับความอยากของการสั่งอาหารกับร้านเล็กๆ ที่พึ่งพาบริการของ 3rd party อย่าง Lalamove, Line Delivery เป็นต้น ซึ่งปัญหานี้สำหรับผมเองก็มองว่าถือเป็นจุดที่น่าสนใจมากที่จะปิดอุปสรรคนี้ได้อย่างไร
อยากกินอาหารร้านเล็กๆ ค่าส่งไม่ถูก
ตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาของผมอยากอุดหนุนอาหารของบางร้านอาหารอย่างมาก แต่ด้วยระยะทางของการจัดส่งของผม ทำให้สุดท้ายแล้วเราต้องปฏิเสธที่จะอุดหนุนไป
ซึ่งพบเป็นครั้งที่ 3 ของตัวเองในรอบสัปดาห์ ด้วยเหตุคืออยากกิน! แต่กินแค่คนเดียวจึงต้องทำใจ และมีอีก 1 ครั้งที่ตัดใจไม่สนใจค่าขนส่ง เลือกใช้บริการซึ่งแน่นอนว่าค่าอาหารถูกกว่าคนรถเสียอีก
โดยทั้ง 3 ครั้งที่เลือกไม่ใช้บริการค่าส่งอยู่ที่ประมาณ 400 บาท ซึ่งมองดูแล้วระยะทางมีผลอย่างมากที่จะทำให้คนตัดสินใจซื้อ! (ขณะที่อีก 1 ครั้งที่ตัดสินใจซื้อก็ค่าส่ง 420 บาทนั่นแหละ แพงมากๆอยู่ดี)
แล้วทำไมร้านเล็กๆบางร้านกล้าจ้างคนส่งประจำ
คำถามที่อดสงสัยไม่ได้ต่อมาก็คือ มีเพียง 1 ร้านที่เราตัดสินใจใช้บริการครั้งที่ 2 ในรอบเดือน ซึ่งเป็นร้านเล็กๆ ที่มีเพดานค่าส่งสูงสุดที่ 120 บาท โดยไม่ดูระยะทาง (ส่งให้เขตกรุงเทพฯและรอบกรุงเทพฯ)
ผมตัดสินใจสั่งอาหารแบบไม่ลังเล หลังจากที่เมนูคล้ายๆกันของอีกร้าน ค่าส่งแพงมาก
ที่น่าสงสัยและยังไม่สามารถหาคำตอบได้ก็คือ ร้านเล็กๆบนร้านออนไลน์ทำไมถึงกล้าใช้พนักงานขนส่งประจำ และให้เพดานสูงสุดของค่าจัดส่งในตัวเลข 120 บาท!
ถึงเวลานี้ก็เลยได้ข้อสรุปได้ว่า การที่ Food Delivery มีเป็นตัวเลือกมากมายให้ได้ใช้บริการ แต่ค่าบริการไม่เป็นมิตรกับพื้นที่บ้านของเรา ก็ยังเป็นอุปสรรคของการเติบโตอยู่หรือไม่
และก็มีคำถามที่สงสัยเพิ่มว่า แล้วถ้าเป็นอุปสรรค จะมีวันที่ค่าขนส่งมีเพดานไม่สูงมากจนผู้ซื้อไม่ลังเลที่จ่าย .. หากเกิดวันนั้นได้ เรื่องกินก็ไม่ใช่อุปสรรคใดๆต่อผมแล้วละ
และถ้าแบรนด์สินค้าและบริการใด อยากให้เราได้ใช้บริการอะไร หรือได้ลองสินค้าตัวไหน ก็ส่งมาได้นะ ^^ มันอาจจะเป็นบล็อคที่เงียบเหงา ผู้ติดตามไม่น้อย แต่ผู้เขียนรู้เทคนิคการเขียนบทความให้ติดอันดับ SEO ได้นะครับ ฉะนั้นอาจเป็นจุดแข็งที่คุณอาจสนใจเราก็เป็นได้